Select your Top Menu from wp menus

กระชับวงล้อมปันความคิด ฟีฟ่า คองเกรส 2024

กระชับวงล้อมปันความคิด ฟีฟ่า คองเกรส 2024

ระหว่างวันที่ 13-17 พฤษภาคมศกนี้ จะเป็นอีกครั้งที่ชื่อของประเทศไทยจะไปปรากฏในเวทีโลกด้วยการได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมฟีฟ่า คองเกรส หรือ FIFA CONGRESS BANGKOK 2024

การประชุมใหญ่สามัญประจำปี หรือ ฟีฟ่า คองเกรส ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 74 และถือว่าเป็นครั้งแรกและเป็นครั้งสำคัญของวงการลูกหนังไทยที่ฟีฟ่ามอบโอกาสอันยิ่งใหญ่ให้

จากความสำคัญของงานดังกล่าวล่าสุดนายใหญ่ลูกหนังโลก หรือประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ จานนี อินฟานติโน ได้ระบุผ่านสื่อว่า “ผมรอคอยที่จะได้กลับไปยังประเทศที่สวยงามอย่างประเทศไทยเพื่อเข้าประชุม ฟีฟ่า คองเกรส ครั้งที่ 74 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 นี้”

เมื่อกล่าวถึงประเทศไทยกับการได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพประชุมระดับโลกโดยเฉพาะในมิติที่เกี่ยวกับวงการลูกหนังในระดับนานาชาติด้วยแล้วถือว่าไทยเป็นชาติแรกในอาเซียน และเป็นชาติที่ 5 ในเอเชียต่อจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ กาตาร์ และออสเตรเลีย ที่ได้รับโอกาสครั้งสำคัญ

และด้วยความยิ่งใหญ่ของงานระดับโลกที่จะมีผู้มีบทบาทในวงการฟุตบอลตลอดจนดาวเตะชั้นแนวหน้ามาร่วมกว่า 3,500 คน เมื่อผนวกกับชื่อเสียงของประเทศหากส่องไปที่ความพร้อมสำหรับการรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจะพบว่าเมื่อไม่นานมานี้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯโดย “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ในฐานะประมุขลูกหนังพร้อมทีมงานได้ประสานขอการสนับสนุนจากรัฐบาล ซึ่งนายก รัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ในฐานะผู้นำรวมทั้ง น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล เจ้ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในขณะนั้นต่างก็ยืนยันที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

สาระสำคัญของการประชุมฟีฟ่า คองเกรส นอกจากกิจกรรมต่างๆ ที่จะโหมโรงตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคมนี้แล้ว สิ่งที่จะต้องจับตาคือการประชุมที่จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้วาระและการมีส่วนร่วมของบุคคลสำคัญในวงการลูกหนังโลกที่จะเข้าร่วม ถึง 211 สมาคมสมาชิกของฟีฟ่า

และหนึ่งในประเด็นที่ทุกชาติสมาชิกตั้งตารอคงจะได้แก่การพิจารณาคัดเลือกหรือโหวตหาเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2027 ซึ่งล่าสุดมีชาติที่เสนอตัวแล้ว ประกอบด้วย กลุ่มยุโรปที่จะเป็นเจ้าภาพร่วม 3 ชาติคือ เบลเยียม เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และเจ้าภาพเดี่ยวได้แก่ชาติมหาอำนาจลูกหนังโลกอย่างบราซิล

เหนืออื่นใดด้วยความสำคัญของงานระดับโลกที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเยี่ยงนี้เชื่อว่าอานิสงส์ และผลประโยชน์ภายใต้ศิลปะ วัฒนธรรม ตลอดจนแหล่งท่องเที่ยวและอื่นๆ ซึ่งถือว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่สำคัญของประเทศคงจะส่งผลต่อการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างน่าจับตายิ่ง

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : ไทยรัฐ

Related posts